Search

โพสต์นี้ขอยกเอาคำว่า "เอาใจเค้า มาใส่ใจเรา" ครับ ....

โพสต์นี้ขอยกเอาคำว่า "เอาใจเค้า มาใส่ใจเรา" ครับ .. คือ วันนี้ เปิดมาเจอข่าว "คนไทยแห่กันไปเที่ยวบางแสน หลังคลายล็อคดาวน์โรคโควิด-19" แล้วคิดถึงเรื่องดราม่าเกี่ยวกับประเทศอังกฤษ เมื่อปีที่แล้ว

ตอนนั้น มันมีภาพข่าวจากที่ประเทศอังกฤษ เป็นชายหาดแห่งหนึ่งในช่วงวันหยุดยาว ที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนมาพักผ่อนจำนวนมาก (ตอนนั้นเป็นช่วงผ่อนคลายมาตรการ อันเนื่องจากเป็นขาลงของการระบาดโควิดระลอกแรก ในอังกฤษ มีคนติดเชื้อเฉลี่ยประมาณ 2700 ต่อวัน และเสียชีวิตประมาณ 300 คนต่อวัน)

ซึ่งภาพข่าวนั้น มีคนไทยจำนวนมากเอาไปพูดเชิงตำหนิแกมประชดประชันว่า คนอังกฤษการ์ดตก ไม่ได้เรื่อง (ไทยเราช่วงนั้น เป็นช่วงที่กำลังกดให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ ให้ยาวนาน รักษาสถิติ)

ผมก็เลยโพสต์ความเห็นว่า แม้ว่าไทยเราจะเน้นแต่ต้องตั้งการ์ดให้สูง ต้องไม่มีผู้ติดเชื้อเลย แต่ในต่างประเทศนั้น มุมมองต่างกับเรามาก

"กลยุทธ์ส่วนใหญ่ที่หลายประเทศใช้ คือ การพยายามกดกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ให้มากเกินไปที่ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศจะรองรับได้แค่นั้น ... โดยไม่ได้พยายามจะทำให้เป็นศูนย์ แล้วต้องแลกกับความล่มสลายทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม "

"เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเจ้าโรคโควิด-19 นี้ไปอีกหลายปี ไม่ใช่คิดที่แต่จะชนะ ... ประเทศที่อาจจะสูญเสียผู้คนไปจำนวนหนึ่ง แต่อยู่รอดและก้าวหน้าได้ในระยะยาว อาจจะเป็นผู้ที่ชนะสงครามครั้งนี้อย่างแท้จริงก็ได้”

เท่านั้นแหละ ดราม่า-ทัวร์ลงกันหนักเลย มีทั้งคนที่ไม่เชื่อเรื่องที่ผมบอกว่า ต่างประเทศใช้กลยุทธ์ "กดความชันกราฟ ไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่ม" จนบางสำนักข่าวพาดหัวว่า "อาจารย์เจษฎ์” มโน “อังกฤษ” การ์ดไม่ตก แค่คุมไม่ให้ล้น รพ. " และก็มีการยกว่า คนอังกฤษแย่จริงๆ การ์ดตกจนมีคนติดเชื้อไปสองแสนหก เสียชีวิตสามหมื่น จนเกินศักยภาพระบบสาธารณสุข

ผ่านมาปีกว่าๆ แล้ว จนวันนี้คนไทยติดเชื้อเกิน 1 ล้านคน (ตอนนี้ สะสมประมาณ 1.4 ล้านราย) เสียชีวิตเกิน 1 หมื่นคนแล้ว (ตอนนี้ ประมาณ 1.5 หมื่นราย) ผมว่า เราคนไทยคงได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19 มากขึ้นเยอะนะ รวมทั้งแนวคิดแนวทางในการรับมือกับโรคที่ต่างประเทศเค้าใช้กันด้วย

คือ ถ้าใช้แต่วิธีตั้งการ์ดสูง-ลอคดาวน์-ปิดประเทศ มันได้ตัวเลขสถิติสวยงาม เป็นศูนย์ยาวนานต่อเนื่องจริง แต่แลกกับความล่มสลายทางเศรษฐกิจ-สังคม-การศึกษาด้วย มันจำเป็นต้องบาลานซ์กันทั้งหมด ไม่ใช่เอาแต่สาธารณสุขอย่างเดียว ดังนั้น การ "กดความชันกราฟ" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่าการ "กดให้เป็นศูนย์"

ภูมิคุ้มกันหมู่ จะเกิดได้จริง มันก็ต้องมีการระบาดไปจนทั่วนั่นแหละครับ (วัคซีนอย่างเดียวก็ไม่พอ) จะเอาแต่ปิดประเทศตลอดไป ไม่ให้มีโรคเลย ก็ไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่าอย่าให้การระบาดมันเร็ว มันแรง เกินไป จนรับมือกันไม่ไหว

การระบาดของโรค มันสามารถเกิดขึ้นได้ และถ้าเราพยายามทำความเข้าใจกลยุทธที่แต่ละประเทศใช้ ไม่ใช่เอาแต่ตำหนิ มันก็จะทำให้เราเห็นตัวอย่างแนวทางใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับบ้านเราได้

ดังตัวอย่างเช่น การใช้ชุดตรวจ ATK การทำ home isolation ฯลฯ ที่เคยมีคนคัดค้านเยอะ แต่ถึงวันนี้ เราก็เห็นว่ามันมีประโยชน์มหาศาล ที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขไม่หนักเกินไป จนล่มสลาย เหมือนช่วงสองสามเดือนก่อนนี้

ที่โพสต์นี้ ไม่ได้บอกว่า อังกฤษ หรือไทย ใครดีกว่ากัน แย่กว่ากันนะ แค่บอกว่าให้เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา (เช่น ลอคดาวน์มานานๆ ก็อยากไปเที่ยวกัน เป็นเรื่องธรรมดา แถมคนอังกฤษนี้ เข้าหน้าร้อน มีแดดออกหน่อย ยิ่งไม่อยากอยู่บ้านกัน)

-----------------------
(รายงานข่าว)
บางแสนคึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่เล่นน้ำทะเลแน่นหลังอัดอั้นมานาน วอนเลี้ยงลิงเขาสามมุขยังอดอยากเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่บริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี มีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาเที่ยวบริเวณชายหาดกันอย่างมากมาย หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี ได้มีประกาศให้เปิดใช้ชายหาดตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตัวออกมาเที่ยวกันจำนวนมาก โดยเฉพาะเตียงผ้าใบได้มีมาตรการคุมเข้มในเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมีการวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ รวมทั้งการลงทะเบียน ประกอบกับอากาศโปร่งใส ไม่มีฝนตกลงมา

นางเอ็นดู พิมพ์เชื้อ อายุ 55 ปี แม่ค้าให้เช่าห่วงยาง กล่าวว่า มีอาชีพให้เช่าห่วงยางเลี้ยงลูกจนเรียนจบหมดแล้ว ช่วงที่ปิดชายหาดได้รับความเดือดร้อนเหมือนกัน ดีใจที่เปิดชายหาด ทำให้มีโอกาสหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ชายหาดบางแสนโล่ง อากาศเย็นสบาย มีแสงแดด ทำให้ไม่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงอยากให้มาเที่ยวชายหาดบางแสนกันมากๆ
-----------------------
จำนวนผู้ป่วย-เสียชีวิต สะสมวันนี้ จาก https://www.facebook.com/thaimoph/posts/401782331431676

ข่าวคนไทยเที่ยวบางแสน จาก https://www.matichon.co.th/region/news_2936065

ภาพ และ ข่าว ปีก่อน จาก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000055329

(โพสต์ซ้ำ เพราะรูปข่าวเดิมจากช่องสาม เป็นภาพเก่าปีก่อน .. เอาข่าวและภาพใหม่จากมติชน มาลงแทน .. ดูคลิปข่าวเพิ่มเติมบรรยากาศหาดบางแสน ได้ที่ข่าวช่อง ONE นี้ https://youtu.be/x-gKyFYNgsw)


Tags:

About author
ในที่สุด ก็ได้ออกหนังสือ "อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" ที่รวบรวมบทความหลายปี เกี่ยวกับเรื่อง "จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่" ที่เป็นประเด็นบนโลกออนไลน์และสังคมไทย มาเป็นเล่มเสียที เลยเอามาทำเป็นเพจ ... และก็ตั้งใจว่าต่อไปคงจะเอาเรื่องทำนองนี้มาโพสต์บนเพจนี้ แทนการโพสต์บนเพจเฟซบุ้คส่วนตัว หวังว่าคนจะชอบกันนะครับ .... อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
รวมเรื่องราว "จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่?
View all posts